ประเด็นร้อน

ต้องดึงประชาชน ร่วมแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน

โดย ACT โพสเมื่อ Mar 02,2018

- - สำนักข่าวสยามรัฐ - -

 

ท่ามกลางหลากหลายความเห็นต่อสถานการณ์การทุจริตคอร์รัปชันในประเทศไทยว่าดีขึ้น หรือแย่ลงกันแน่ ภายหลังองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency ระบุว่าประเทศไทยได้รับ 37 คะแนนจากการประเมินตามดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ประจำปี 2560 โดยอยู่ในอันดับที่ 96 จากทั้งหมด 180 ประเทศ

 

มีมุมมองน่าสนใจจาก ดร.มานะ นิมิตมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านการคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ว่า "ป.ป.ช. ตั้งเป้าไว้ว่า การประเมินดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชัน (CPI)ในปี 2564 ไทยต้องได้ 50 คะแนนเป็นอย่างน้อย ขณะที่แผนยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาลก็วาดฝันว่า ในปี 2581 หรืออีก 20 ปีข้างหน้าไทยต้องติดอันดับ 1 ใน 20 ของโลก นั่นคือต้องได้73 คะแนนเท่ากับญี่ปุ่นและต้องพัฒนาให้ดีกว่าเกาหลีใต้ มาเลเซีย ฝรั่งเศส และอิตาลีในปัจจุบัน

 

แต่ตลอด 23 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2538 - 2560) ผลการประเมินขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ประเทศไทยได้คะแนนเพียง 35 ไม่เคยเกิน 38 เลยสักปีเดียว มีขึ้นบ้างลงบ้างสลับกันไปจากคะแนนเต็มร้อยถือว่าสอบตกมาตลอด ขณะที่อันดับโลกก็มีแนวโน้มแย่ลงเรื่อยๆ

 

เมื่อเปรียบ 'ความหวัง' ที่ภาครัฐเขียนไว้ กับ 'ความจริง'ที่ผ่านมาแล้ว ทำให้สงสัยว่าจะเป็นไปได้อย่างไร จะเข้าลักษณะเขียนไว้ให้ดูดีหรือฝันให้ไกลไปให้ถึง

 

เรื่องเลวร้ายที่พบเห็นทั่วไปทุกวันนี้คือ เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจตำแหน่งหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ เรียกรับส่วยสินบน รีดไถ วิ่งเต้นเส้นสาย ปกป้องช่วยเหลือเกื้อกูลพวกพ้องขณะที่การบังคับใช้กฎหมาย การเอาคนผิดมาลงโทษยังอ่อนแอและขาดความเป็นธรรม กลายเป็นสวะที่เร่งให้คอร์รัปชันงอกงาม จนไม่มีใครเชื่อว่าวิธีการ และกลไกของรัฐแบบเดิมๆจะเอาชนะมันได้

 

มีข้อเสนอว่า ถ้าจะปราบคอร์รัปชันให้ได้ เราต้องลงมือให้จริงจังและเร็วกว่านี้ กลไกต้านโกงของรัฐที่มีอยู่ต้องพัฒนาและถูกตรวจสอบมากขึ้น ที่สำคัญกว่าคือ ต้องส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด เริ่มต้นจากการยอมรับในการมีส่วนร่วมคิดร่วมเสนอแนะ โดยต้องเปิดเผยข้อมูลของรัฐให้ทุกคนสามารถเข้าไปติดตามตรวจสอบได้ง่ายๆ ให้แสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี พร้อมปกป้องคุ้มครองมิให้ถูกคนโกงกลั่นแกล้งคุกคามและที่ขาดไม่ได้คือผู้นำประเทศต้องเป็นแบบอย่างที่ดี

 

การที่รัฐตั้งเป้าหมายไว้สวยหรู หากไม่ตั้งใจลงมือทำก็เท่ากับหลอกลวงและโกงความหวังประชาชน จุดแข็งของสังคมไทยเวลานี้คือ ความตื่นตัวของประชาชนที่รังเกียจการโกงชาติและพร้อมร่วมมือเพื่อหยุดยั้งวิกฤตินี้เสีย ดังนั้นมาเริ่มกันเลยครับ"

 

เราหวังว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฉ้อฉลปล้นแผ่นดิน จะให้ความสำคัญต่อข้อคิดดังกล่าวของเลขาฯ องค์การต่อต้านการคอร์รัปชันฯพร้อมนำมาคิดต่อ เพื่อหาแนวทางเร่งรัดแก้ไขบรรเทาปัญหาคอร์รัปชันให้ทุเลาเบาบางลงให้ได้มากที่สุด

 
 

 

 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

 

Follow LINE: http://bit.ly/2luX9Dt
Follow Facebook: http://bit.ly/2z1Dxvw